รู้จัก มณีแดง หรือ RED-GEMs ยาต้านความชรา ไทยค้นพบครั้งแรกของโลก!

[aou27]

วันนี้ (19 ต.ค.64) ศ.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าทีมวิจัย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เปิดเผยความสำเร็จในการต่อยอดยาต้านความชรา จากโมเลกุล “มณีแดง”

โดย “มณีแดง” คือยีนชนิดหนึ่งของมนุษย์ที่มีหน้าที่ทำให้ “ดีเอ็นเอ” แข็งแรง เนื่องจากความชราเกิดจากดีเอ็นเอถูกทำลาย และโมเลกุลมณีแดงมีความสามารถปกป้องดีเอ็นเอไม่ให้ถูกทำลาย

ผู้วิจัยจึงตั้งชื่อภาษาอังกฤษตามหน้าที่ของมันว่า “REjuvenating DNA by GEnomic stability Molecules” หรือ เรียกชื่อย่อว่า RED-GEMs (เรดเจม) มีความหมายว่า “มณีแดง”

คณะผู้วิจัยได้ค้นพบรอยแยกของดีเอ็นเอ ซึ่งลักษณะของดีเอ็นเอจะเป็นสายโพลิเมอร์ 2 เส้นจับกันเป็นเกลียวคู่ เวลาทำงานดีเอ็นเอเกลียวคู่นี้ จะต้องแยกออกจากกัน ทำให้เกิดแรงบิดและถูกทำลายได้ง่าย

การที่ดีเอ็นเอ ถูกทำลายจากแรงบิดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เซลล์แก่ลง รอยแยกของดีเอ็นเอที่ค้นพบใหม่นี้จะช่วยลดแรงบิดลง และปกป้องไม่ให้ดีเอ็นเอถูกทำลายคล้ายกับรอยแยกรางรถไฟ ที่ช่วยปกป้องไม่ให้รางรถไฟผิดรูปจากความร้อน โดยในเซลล์ที่ชราจะมีรอยแยกของดีเอ็นเอน้อยกว่าเซลล์หนุ่มสาว ดังนั้นดีเอ็นเอของคนแก่ถึงถูกทำลายมากกว่า

ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ทดสอบฉีดมณีแดงเข้าที่ช่องท้องหนูทดลองที่ชราแล้ว พบว่า มณีแดงสามารถสร้างข้อต่อดีเอ็นเอได้ สามารถย้อนวัยหนูที่มีเซล์ชราให้กลับมามีรูปร่างและการทำงานเหมือนเซลล์ปกติ เหมือนหนูหนุ่มสาว หนูชรามีความจำดีขึ้นและคล่องแคล่วว่องไวขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าแผลไฟไหม้ในหนูทดลองที่ชราหายเร็วขึ้นด้วย โดยผู้วิจัยได้ตรวจวัดจำนวนเซลล์ชรา, การทำหน้าที่ของตับ, ความทรงจำ, พังผืดของตับ, และโปรตีนอื่น ๆในตับ และในสมอง พบว่าทุกค่าที่หนูชราที่ได้รับ “มณีแดง” มีสภาพร่างกายย้อนเวลากลับเป็นเหมือนวัยหนุ่มสาว

แสดงศักยภาพของมณีแดงในการประยุกต์ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการสะสมสิ่งผิดปกติต่าง ๆ เช่น อมัลลอยในโรคสมองเสื่อม จากอัลไซเมอร์ หรือ ปอดเป็นพังผืดจากการติดเชื้อโควิด หรือการมีเส้นเลือดแข็งจากการมีไขมันสะสมตามผนังหลอดเลือด เป็นต้น

สำหรับศักยภาพของ “มณีแดง” สามารถนำไปใช้ประโยชน์คือ

1. รักษาโรคที่มีกลไกมาจากเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะเสื่อมสภาพที่พบในคนชรา หรือชราเร็วจากโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน โดยในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ หัวใจวาย ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดแข็ง และการเสื่อมสมรรถภาพใน อวัยวะต่างๆ เป็นต้น

2. รักษาโรคที่อวัยวะเสื่อมสภาพ จากการทำลายจากสิ่งแวดล้อม เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ปอดพังจากบุหรี่ ตับสมองพังจากสุรา ไตพังจากสารพิษ เป็นต้น

3. เสริมสมรรถภาพของคนชราให้มีศักยภาพทางกาย รูปร่างหน้าตา เท่ากับคนหนุ่มสาว

4. อาจใช้ป้องกันและรักษามะเร็งได้ โดยการแก้ไขความชราของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ทำลายเซลล์มะเร็ง และป้องกันมะเร็งจากการลดโอกาสเกิดการแตกทำลายของดีเอ็นเออันนำไปสู่การกลายพันธุ์ของยีน

5. ใช้ชะลอการเสื่อมของร่างกายในเด็กที่มีความผิดปกติของยีนซ่อมแซมดีเอ็นเอ

6. ใช้เสริมความงาม

7. ใช้เพิ่มผลิตผลทางการเกษตร

8. ใช้ป้องกันความพิการแต่กำเนิด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยในต่างประเทศ พบว่าผลการศึกษายังไม่สามารถย้อนวัยได้สมบูรณ์เท่ามณีแดงที่นักวิจัยไทยค้นพบครั้งนี้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะทำการทดสอบในลิงและในมนุษย์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี

นอกจากนี้ อาจจะมีการปรับโครงสร้างมณีแดง และวิธีการให้ยาที่เหมาะสม เช่น ทดสอบการให้โดยวิธีสูดดม หรือการฉีดเข้าเส้น เป็นต้น

ด้าน นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ความสำเร็จของการทดลองนี้มีผลที่ดีเหนือความคาดหมาย ซึ่งต้องรอผลทดสอบในลิง และมนุษย์ นอกจากนี้ จะมีการทดสอบแก้ไขความชราในอิมมูนเซลล์ เพื่อรักษามะเร็งด้วย เนื่องจากมณีแดงอาจสร้างรายได้ให้ประเทศไทยมูลค่ามหาศาล

ดังนั้น รัฐบาลอาจจะต้องวางแผนเพื่อให้เกิดรายได้จากองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์นี้ เพราะมณีแดงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งการวางแผนที่ดีจะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการแก้ปัญหานี้.

https://www.tnnthailand.com/news/social/94145/

ถ้าทดลองได้สำเร็จนี่ เราอาจได้เห็น เปเล่ โรมาริโอ้ ซีดาน โยฮันครัฟฟ์ และนักฟุตบอลเก่งๆรุ่นเดอะของโลกทุกคน กลับมาลงสนามได้อีกครั้งเลยนะ  

[aou27]

.

[loeicity2029]

.

[aou27]

.

555 ต้องการสื่อสารอะไรครับท่าน

[aou27]

ต่อไปผมว่านายทหารยศนายพลคงจะเต็มกองทัพแน่นอนถ้ายาตัวนี้คิดค้นได้สำเร็จ เพราะทหารทุกนายในกองทัพก็คงสอบเลื่อนยศกันได้อยู่ตลอดโดยไม่ต้องกลัวตายก่อนที่จะได้ติดยศนายพล ลองคิดดูว่าคนที่มีชีวิตอยู่บนโลกมา 1000-10000 ปีโดยไม่แก่เลย ก็คงต้องอ่านหนังสือจนสอบผ่านเป็นนายทหารแล้วได้เลื่อนขั้นเป็นนายพลเข้าซักวันในชีวิตของเขาแหละ ในกองทัพก็จะมีแต่ทหารยศพลเอกหน้าเด็กเต็มไปหมด แล้วก็ไม่ต้องโดนเกษียณอายุราชการด้วยพลเอกพวกนี้ แม้จะรับราชการมาหมื่นปีหรือแสนปีแล้วก็ตามเพราะไม่มีคำว่าแก่ คิดว่าถึงเวลานั้นก็คงจะไม่มีการรับสมัครคนนอกมาเข้ากองทัพเพิ่ม เพราะที่มีอยู่ก็ไม่มีใครโดนรีไทร์เลย ใครได้อยู่ในกองทัพแล้วก็คงอยู่ไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน พอถึงจุดๆหนึ่งกองทัพก็จะไม่มีทหารยศอื่นนอกจากยศพลเอกเท่านั้น พลเอกกันทั้งกองทัพเลยไม่มียศอื่น

ก็แปลกดี

[aou27]

ไม่เท่านั้น คนเราก็จะไม่กลัวการตกนรกด้วย เพราะว่ากินยาแล้วเป็นอมตะไม่มีวันตาย คนก็อาจจะไม่กลัวบาปและก็อาจกล้าที่จะทำความชั่วมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าทำชั่วแล้วตายไปฉันจะต้องไปเกิดเป็นเปรต อสูรกาย ในนรก หรือต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือป่าว? เพราะว่าไม่ต้องตาย

ไม่มีอีกแล้วระบบบุญ-บาปกับโลกหลังความตายแบบนี้ตัดทิ้งไปได้เลย

[Jame_SURINFC]

 

[aou27]

ไม่เท่านั้น คนเราก็จะไม่กลัวการตกนรกด้วย เพราะว่ากินยาแล้วเป็นอมตะไม่มีวันตาย คนก็อาจจะไม่กลัวบาปและก็อาจกล้าที่จะทำความชั่วมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าทำชั่วแล้วตายไปฉันจะต้องไปเกิดเป็นเปรต อสูรกาย ในนรก หรือต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือป่าว? เพราะว่าไม่ต้องตาย

ไม่มีอีกแล้วระบบบุญ-บาปกับโลกหลังความตายแบบนี้ตัดทิ้งไปได้เลย

หรือแม้แต่บุญก็อาจจะไม่อยากทำด้วย เพราะเป็นอมตะไม่มีวันตายอยู่แล้ว จึงไม่อยากทำบุญเพราะทำไปก็ไม่ได้ขึ้นสวรรค์อยู่ดี จะทำไปทำไมบุญเนี่ย

โลกอาจมีคนทำชั่วเพิ่มขึ้นและคนทำดีน้อยลง แล้วจะอยู่กันยังไงหละเนี่ย???

อืม น่าคิดๆๆๆ

[aou27]

นอกจากนี้ ใครที่เคยเป็นข้าราชการแล้วได้ปลดเกษียณมานอนอยู่บ้านรับเงินบำนาญไว้กินไว้ใช้แบบสบายๆในทุกวันนี้ ถ้ายาตัวนี้คิดค้นสำเร็จ ผมบอกได้เลยว่าท่านอาจถูกทางราชการยกเลิกการจ่ายเงินบำนาญแล้วเรียกตัวกลับไปทำงานอีกรอบได้ เพราะหลวงเค้าคงไม่อยากจ่ายเงินบำนาญให้ข้าราชการเกษียณพวกนี้ไปตลอดชั่วนาตาปีหรอก ใครเค้าจะบ้าเลี้ยงดูคนไปตลอดปีตลอดชาติโดยไม่หวังกำลังงานมาตอบแทนให้เค้าหละ ก็เล่นกินยาจนไม่มีวันแก่วันตายแล้วนี่จริงมั้ย

เตรียมตัวกลับไปรับใช้ชาติอีกรอบได้เลยข้าราชการบำนาญทั้งหลาย อิอิ

[aou27]

ต่อไปผมว่านายทหารยศนายพลคงจะเต็มกองทัพแน่นอนถ้ายาตัวนี้คิดค้นได้สำเร็จ เพราะทหารทุกนายในกองทัพก็คงสอบเลื่อนยศกันได้อยู่ตลอดโดยไม่ต้องกลัวตายก่อนที่จะได้ติดยศนายพล ลองคิดดูว่าคนที่มีชีวิตอยู่บนโลกมา 1000-10000 ปีโดยไม่แก่เลย ก็คงต้องอ่านหนังสือจนสอบผ่านเป็นนายทหารแล้วได้เลื่อนขั้นเป็นนายพลเข้าซักวันในชีวิตของเขาแหละ ในกองทัพก็จะมีแต่ทหารยศพลเอกหน้าเด็กเต็มไปหมด แล้วก็ไม่ต้องโดนเกษียณอายุราชการด้วยพลเอกพวกนี้ แม้จะรับราชการมาหมื่นปีหรือแสนปีแล้วก็ตามเพราะไม่มีคำว่าแก่ คิดว่าถึงเวลานั้นก็คงจะไม่มีการรับสมัครคนนอกมาเข้ากองทัพเพิ่ม เพราะที่มีอยู่ก็ไม่มีใครโดนรีไทร์เลย ใครได้อยู่ในกองทัพแล้วก็คงอยู่ไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน พอถึงจุดๆหนึ่งกองทัพก็จะไม่มีทหารยศอื่นนอกจากยศพลเอกเท่านั้น พลเอกกันทั้งกองทัพเลยไม่มียศอื่น

ก็แปลกดี

ไม่เฉพาะทหารนะตำรวจก็ด้วย อีกหน่อยตำรวจก็จะมีแต่ยศพลตำรวจเอกเท่านั้น

อนาคตเราอาจได้เห็นตำรวจยศพลตำรวจเอกมายืนโบกรถอยู่ตามแยกไฟแดง .. wow

[aou27]

อนาคตคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีหรือประธานาธิบดี อาจจะได้เป็นนายกฯหรือปธน.ไปตลอดปีตลอดชาติเลยก็ได้ เพราะถ้ากฎหมายกำหนดให้คนๆนึงสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศได้แค่ 8 ปีแบบที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกตอนนี้ทำกัน ถ้ายาตัวนี้คิดค้นสำเร็จ หากกฎหมายเรื่องอายุงานของผู้นำยังเป็นแบบเดิม ผมบอกได้เลยว่าต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน เพราะคนที่มีอุดมการณ์อยากจะเป็นผู้นำประเทศนั้นไม่ได้มีจำนวนมากนักหรอก คนที่มีอุดมการณ์อยากจะประกอบอาชีพอื่นๆก็มี (แถมยังเยอะกว่ามากด้วย) ดังนั้นจำนวนโควต้าของคนในสายงานการเมืองระดับผู้นำจะต้องถูกใช้หมดลงสักวันแน่ถ้ากฎหมายเรื่องนี้ยังเป็นแบบเดิม ยกตัวอย่างสมมุติว่าในประเทศนั้นมีคนที่มีอุดมการณ์อยากเป็นผู้นำที่มีความสามารถด้านบริหารจัดการเก่งๆอยู่ 10000 คน (อันนี้สำหรับประเทศที่มีประชากรมากๆเลยนะ ส่วนประเทศเล็กๆที่มีประชากรน้อยๆก็จะน้อยกว่านี้อีกยิ่งหนักเลย) ถ้าทุกคนในจำนวนนี้สามารถดำรงตำแหน่งได้คนละ 8 ปีแล้วก็ห้ามกลับมาเป็นผู้นำอีก แบบนี้ประเทศนั้นก็จะได้ผู้นำดีๆมาเป็นผู้นำให้แก่ประเทศได้แค่ 80000 ปี หลังจากนั้นจะเอาใครมาเป็นผู้นำแล้วหละเพราะว่าหมดโควต้าคนในสายอาชีพนี้แล้วไง ยกเว้นแต่ว่าจะมีประชากรใหม่ๆเกิดขึ้นมาให้เป็นตัวเลือกเพิ่ม แต่คนเก่าๆก็ยังไม่ตายเลยนะ มันจะไม่เกิดปัญหาประชากรแออัดเกินไปหรือถ้าจะให้มีเด็กเกิดมาเพิ่มอีกในขณะที่จำนวนคนตายเป็น 0 นอกจากจะมีการการุณยฆาตให้คนที่อยากตายได้ตายได้สมใจน่ะถึงจะไม่เกิดปัญหานี้ แต่ใครจะไปบ้าอยากตายหละอยู่ดีๆ ดังนั้นผมจึงเชื่อว่ากฎหมายเรื่องอายุงานของผู้นำต้องถูกแก้แน่นอนในอนาคตถ้ายาตัวนี้ใช้ได้ผลในมนุษย์

[aou27]

นอกจากนี้แล้วการการุณยฆาตก็อาจทำได้เสรีมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับคนที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการแขนขาขาดหรือว่าตาบอด คนเหล่านี้แหละที่จะเป็นลูกค้าชั้นดีให้กับบริษัทที่รับทำการุณยฆาต เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นคนพิการไปตลอดไปโดยไม่มีวันแก่วันตายหรอก ้เผลอๆนะผมว่าอีกหน่อยมนุษย์จะกลายเป็นคนระมัดระวังตัวแจกันเลย เพราะทุกคนกลัวการประสบอุบัติเหตุกันมากจนขึ้นสมอง เพราะถ้าพิการขึ้นมานั่นหมายถึงต้องเป็นแบบนั้นตลอดไป จะหนีความพิการได้กรณีเดียวคือความตายเท่านั้นซึ่งจะทำให้บริษัทที่ทำการุณยฆาติได้ประโยชน์ตรงนี้ นอกเสียจากว่าคนพิการทั้งหลายเหล่านั้นจะคิดว่ายอมอยู่อย่างพิการดีกว่าตายเพราะกลัวตายเท่านั้นแหละ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นโควต้าคนปกติก็จะลดลงทุกวันๆ เพราะว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกวันอยู่แล้วในระบบทุนนิยมเสรี นั่นอาจทำให้วันหนึ่งโลกจะมีจำนวนคนพิการเยอะมากๆ และสักวันก็อาจจะมีสะสมเยอะจนแซงหน้าจำนวนคนปกติก็ได้ถ้าคนพิการเหล่านี้ไม่ยอมการุณยฆาตจนอาจเป็นปัญหาต่อระบบแรงงาน เพราะจำนวนคนเกิดใหม่ในตอนนั้นอาจจะเป็น 0 เนื่องจากโลกเรากังวลกับปัญหาประชากรแออัดจึงไม่อยากให้ใครเกิดเพิ่ม เพราะคนเก่าๆไม่มีใครยอมแก่ยอมตายเลยเพราะกินยาตัวนี้เข้าไปกัน

[aou27]

.