สรุปเหตุผลทั้งหมดความล้มเหลวทีมชาติไทยครั้งนี้

[Powerperboy]

เริ่มแรกความแข็งแกร่งทีมชาติไทยคงปฏิเสธไม่ได้ว่าจาก  3  แกนหลัก  คือ  ธีรศิลป์  ชนาธิป  และธีรธร ตามข้อมูล ระบบการเล่นทั้งหมด..
ส่วนนักเตะรายอื่นๆ  แค่คอยซัปผอต  ให้ 3  ตัวนี้เล่นง่ายขึ้น ก็แค่นั้น  ขึ้นเกมไม่ได้ นีกถึงชนาธิป  เพิ่มสปีดบอลนึกถึง ชนาธิป และธีรธร
บอลยาวนึกถึงธีรธร  บอลสั้น นึกถึงชนาธิป ..พิธืวัฒ และสารัฐ คอยเพรส รับและส่งบอล เพื่อให้ชนาธิป ส่วนธีรศิลป คอยค้ำแดนหน้า..คอยเก็บบอลแล้วก็ยิง  .....นักเตะรายอื่นคอยซัปผอทเกมให้ไหลลื่น...  ธีรธร ..ฝั่งซ้ายผู้ไม่เกรงกลัวนักเตะหน้าไหนทั้งสิ้นดวนได้ทุกคนถ้าคิดว่าเอาอยู่..
ชนาธิป..ผู้บัญชาเกมรุกและเพิ่มสปิทบอล...ถ้านักเตะหน้าไหนคิดว่า 1 ต่อ 1 เอาอยู่ก็จัดมา หลุดหมด.ถึงต้องคอยส่งประกบ อย่างน้อย 2 ตัวและตัดเกม ภ้าไม่ทำ  เป็นเรื่อง ... ธีรศิลป์ กองหน้ามากประสบการณ์..เก็บบอลแดนหน้าได้ พักบอลดี ไปกับบอลยิ่งดี โหม่งสุดยอด  กองหลังยังต้องห่วง... สรุปแบบเข้าใจง่าย  1.บอลยาวธีรธร  บอลสั้นและเพิ่มสปีทบอลชนาธิป  แดนหน้าเก็บบอลพักบอล ธีรศิป์....นี่คือสิ่งที่ขาดหายไปของทีมชาติไทย....เพราะไม่มีตัวแทนได้  ...โดยเฉพาะธีรธร กัปตันทีมผู้ดุดัน  ใครเล่นไม่ดี เจอโวยวายแน่ คอยกระตุ้นรุ่นน้อง....ด้วยเหตุนี้..
----โคชนิชิโนะต้องการมาก คือ  ชนาธิป  ตัวขับเคลื่อนเกม และธีรธร บอลยาวอันตราย...ฝั่งซ้ายเอาอยู่ จนคู่แข่งต้องขึ้นฝั่งขาว...แทน
---------------------ส่วนธนวัฒน์  โคชนิชิโนะ ต้องการมาซัปผอทชนาธิป...กรณีที่ต้องการเพิ่มมิติเกมรุก.......แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง..
ทีมชาติไทยไม่มีผู้บัญชาเกมรุกและรับ....ฟอร์มก็เลยออกทะเล...นักเตะที่มีอยู่แทนไม่ได้..และงงกับแทคติก จะส่งให้ใคร  ใครจะยิง..จะเพรากับใคร..วิ่งคนเดียวก็เหนื่อย...ใจเลยไม่ได้  เพราะคิดเยอะเกินไป....ส่วนโคชก็หมดมุก...ไม่รู้จะส่งใครแทนดี..เพิ่มเกมรุกไม่ได้สปิทบอลไม่มี..
ฝั่งซ้ายเป็นบ่อน้ำมัน...ฝั่งขวาก็ไม่ดี  บอลยาวไม่แม่น แดนกลางเก็บไม่ได้.. กองหน้าเก็บบอลไม่ได้...เลยจบไม่คม...
-------------------แถมโคชไม่มีผู้ช่วยคอยปรึกษา ใส่แทคติกเยอะก็งง  ...นี่หละผลของการไม่มีทีมงานตัวเอง...เลยล้มเหลว...
นักเตะไม่ผิด  หรอก  ทำตามโคชแล้ว  ให้กำลังใจเสมอ โคชแค่วางผู้เล่นผิดตำแหน่งแค่นั้นเอง...

[thon law]

สาเหตคราวนี้มันชัดว่าไม่ใช่มาจากผู้เล่น เพราะอะไร เพราะเหมือนนักเตะไม่เข้าขากันทั้งทีม แต่ละคนแยกมาทีละคน ฟอร์มกับสโมสรไม่ใช่ขั้นขี้เหร่อะไร ถึงบางคนหายเจ็บกับมาจะลงตัวจริงก็เถอะ (เขาเรียกเข้าระบบนะ ไม่ใช่ลูกรัก ลูกรักนั้นใช้กับโค้ชไทยเท่านั้น ) แต่นั่นแหล่ะไม่มีความเข้าขากันทุกตำแหน่ง โค้ชอากิระยังหาตัวจริงในใจไม่ได้เลย ผมพุ่งไปที่แบ๊ครูมของโค้ช โค้ชเก่งแต่ในบ้านเกิด ภาษาสื่อสารกับต่างชาติเลยต่ำเตี้ย จะปรึกษาคุยแท๊คติกกับใครละ โค้ชจุ่น? แน่นอนต้องล่าม ล่ามมีแค่เจ๊กน่อที่คุยอิไตๆกับแกได้ ซึ่งคนใหม่นี่ภาษาฟุตบอลยังไม่ได้ดีมากนัก กับการถ่ายทอดให้โค้ช ให้นักเตะเกือบ50-60ชีวืต มันจะได้ประสิทธิภาพเพียงพอหรือ? โค้ชอากิระติดประมาท ไม่อยากเสียส่วนแบ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ ปัญหาคือการสื่อสารภายในทีมที่ทำให้ทีมไม่เก็ท วิฑีแก้ถ้าโค้ชอากิระอยากลบจุดด่างพร้อยคือไปเอาแบ๊ครูมของตัวเองมา โค้ชคู่คิด โค้ชที่เข้าใจอากิระแพลน แล้วเพิ่มล่ามให้เหมาะสมกับจำนวนกลุ่ม ซึ่งผมมองว่าควรมีอย่างน้อย2-3คน ลองให้ธิซังแนะนำก็ได้ว่าล่ามเข้าใจภาษาฟุตบอลมีใครเข้าข่ายมาเป็นแบ๊ครูมอากิระได้ ทำให้นายกกล้าโผล่หน้ามาสัมภาษณ์หน่อยเถอะ

[Kokkabark]

1.ความฟิต (ปัญหาหลัก)

                         ลีกปิดสิ้นมีนาคม  เรียกตัวสิ้นเมษา เข้าแค้มป์ 3 พฤษภา  7 พฤษภา ติดโควิดกักตัว 14 วัน  
                         21 พฤษภาคมเดินทาง  ชุดสองรายงานตัว 14 พฤษภา เข้าแคมป์บุรีรัมย์ที่บางบ่อ โดยแยกซ้อม
                         สตาฟฟ์โค้ชชุดใหญ่กักตัว  ลุงโนะก็กักตัว  นักบอลพักหลังจากปิดลีก ต้องใช้เวลาเท่าไหร่เพื่อเรียกฟิต
                         เพื่อกลับมาแข่งระดับสูงได้  แล้วฟุตบอลสไตล์ญี่ปุ่นถ้าไม่ฟิตแล้วมันเล่นไม่ได้ตามนั้น

2.การขาดตัวหลัก

                         ถ้าเจ อุ้ม มุ้ยมา เราก็จะได้นักฟุตบอลเกรดระดับเอเชียมาช่วย  แถมจะได้นักเตะที่มีความฟิตมาช่วย
                         รวมกับธนวัฒน์ นิว ต้น เราก็จะมีนักบอลที่ฟิตครึ่งค่อนทีม  ผลงานย่อมต่างไปแน่นอน

3. อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ลุงโนะคนเดียว

                          อย่างที่เคยฟังโค้ชธง  สตาฟฟ์ชาวไทยไม่มีใครกล้าเสนอแนะลุงโนะ  เพราะไม่สนิทกัน
                          ทำให้การตัดสินใจบางอย่างเลยไม่เหมาะกับสถานการณ์ของนักบอลไทย  เพราะความคิดแกก็ยังไงก็คนญี่ปุ่น

4. ขาดผู้จัดการทีมที่เข้าใจการทำทีมฟุตบอล

                          ถึงครั้งนี้คุณพาทิศจะไปอยู่ในแคมป์  แต่การตัดสินใจอะไรที่เกี่ยวกับฟุตบอลยังไงก็คงเป็นลุงโนะ(ตามการคะเนนะครับ)
                          ตามความคิดถ้าได้อดีตโค้ชหรืออดีตนักฟุตบอลทีมชาติน่าจะเป็นผลดีกว่า  และต้องกล้าคุยกล้าเสนอกับลุงโนะ
                          ปัจจุบันมองไม่เห็นใครนอกจากโค้ชเฮง

5. โควิด

                          หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นข้ออ้าง  แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สถานการณืเดินมาถึงปัจจุบัน  อย่างการต้องเลื่อนลีก
                          แล้วมาอัดให้จบในภายหลัง  ลุงโนะไม่มีไฟต์บินกลับไทย  การที่ไทยได้เล่นในบ้านแค่ 2 นัด เวียดนามเล่นในบ้าน 3 นัด
                          ยูเออีได้เล่นในบ้าน 4 นัด  

6. การปรับเวลาเปิดปิดลีก

                          ถ้าโปรแกรมทีมชาติแข่งได้ตามโปรแกรมปกติ ผมว่าเราจะทำผลงานได้ดีกว่านี้  แต่เราซวยที่โปรแกรมเลื่อนมาตอนที่
                          ลีกบ้านเราปิดไปแล้ว สภาพนักบอลเลยเป็นไปอย่างที่เห็น  ทีมที่ผลงานดีคือทีมที่ลีกกำลังแข่งขันอยู่  อย่างยูเออี
                          และเวียดนาม  แถมทีมชาติก็ได้เก็บตัวอย่างเต็มที่ นักฟุตบอลถูกเรียกมาในสภาพที่มีความฟิต
                          โค้ชจึงใส่แทคติกและระบบการเล่นได้อย่างเต็มที่่


หลักๆก็น่าจะประมาณนี้ละครับตามความคิดผม  บางข้อบางคนอาจจะมองว่ามันเป็นข้ออ้าง แต่มันก็เป็นนึง
ที่ผลักดันให้ทีมชาติไทยมาถึงจุดนี้ในครั้งนี้  ผมว่าสมาคมชุดนี้ได้เจอครั้งนี้ผมว่ามันเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง

เพราะต่อให้ครั้งนี้เราผ่านเข้ารอบ 12 ทีมไปได้แต่ก็ความหวังน้อยนิดที่จะได้ไปบอลโลก
สู้เอามาเป็นบทเรียน และไปสร้าง และเตรียมทีมเพื่อครั้งหน้าดีกว่า  ที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก