เรื่องโดย akinson149
ผมจั่วหัว หงายไพ่ชัดเจนว่าคิงส์คัพหนนี้ นอกจากเหล่าบรรดา"โอตะ" ที่จะเข้าไปให้กำลังใจเหล่าน้องๆหลานๆ bnk48 ถึงติดขอบสนามเเล้ว บรรดากองเชียร์ช้างศึกทั้งรุ่นใหญ่เเละรุ่นเล็กก็คงจะตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับรายชื่อคู่ต่อสู้ที่ทางสมค.ฟุตบอลไทย ประกาศออกมาไม่ว่าจะเป็นทั้ง สโลวาเกีย, กาบอง และ ยูเออี เรียกง่ายๆว่า หนนี้ทางสมค.ทำการบ้านมาอย่างดี เพราะทุกทีมล้วนมีความเเตกต่างในวิธีการเล่นแบบต่างกันสิ้นเชิง มิหนำซ้ำ ยังขนบรรดาสตาร์ตัวหลักในทีมมาเข้าร่วมรายการนี้แบบครบครัน (ผมคงไม่ต้องบอกว่ามีใครบ้าง ก็อย่างที่เราๆท่านๆ ได้เห็นกันไปแล้วตามหน้าข่าวนั่นแหละ)
สาระสำคัญของบทความนี้ไม่ใช่เรื่องตัวนักเตะเเต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดหลังจากนี้มันว่ากันด้วยเรื่อง "โค้ช" ล้วนๆ

"หัวหน้าผู้ฝึกสอน" คือคำที่เราๆมักคุ้นหูเเละพูดกันจนติดปาก คงไม่ต้องบอกว่าเขามีความสำคัญอย่างไรนะคับ เขานี่แหละคือผู้สั่งการและกำหนดหลายๆสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสนาม ทั้ง ระบบการเล่น, การยืนตำแหน่งของตัวผู้เล่น, วิธีเข้าทำ, การป้องกันลูกบนพื้นดินและอากาศ และรวมไปถึง แทคติกอื่นๆในสนาม หากจะเปรียบก็เหมือนเป็นมันสมองของทีม ดังนั้นผลแพ้-ชนะในเเต่ละนัดนั้น โค้ชมีบทบาทอย่างมากในการวางหมากแก้เกมส์สู้กัน
คิงส์คัพหนนี้ตามสโลแกนที่ทั้งสปอร์นเซอร์ใหญ่อย่าง ไทยรัฐทีวี และสมค.ได้ร่วมกันหารือจนตกผลึกออกมาเป็นการประลองกันระหว่างทีมจาก 3 ทวีป หรือ
"ศึกลูกหนัง3ทวีป" นั่นคือ ยุโรป, เอเซีย และ แอฟริกา แถมหากเราส่องไปดูรายชื่อของโค้ชที่เป็นนายใหญ่ของแต่ละทีม นี่ต้องบอกเลยว่า หนีบเอาหัวกะทิมาทั้งนั้น ทำไมผมถึงพูดแบบนี้นะหรอ..เพราะเเต่ละคนล้วนมีประสบการ์ณในการคุมทีมแบบคับแก้วแถมบางคนยังมีสตอรี่กับทีมชาติไทยอีกด้วย
เริ่มที่ทีมเเรก Slovakia ของ โค้ช ยาน โคซัคโค้ชยาน โคซัค อายุ 63 ปี คุมทีมชาติสโลวาเกียมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2013 (5ปีมาเเล้ว) แถมยังพาสโลวาเกียทะลุได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในยูโรหนล่าสุด ก่อนไปพลาดท่าแพ้ทีมชาติเยอรมันแบบขาดลอย 3-0 แต่สิ่งที่เป็นที่ชื่นชมของโค้ชโคซัคและเคยได้รับการยอมรับจากนิตยสารฟุตบอลหลายสำนัก รวมไปถึงเดอะ การ์เดี่ยน สื่อยักษํใหญ่ของฝั่งยุโรป นั่นคือ "แทคติกเรื่องเกมรับ"

โคซัคเข้ามาทำทีมสโลวาเกียในช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่เขาก็สามารถพาทีมโค่นทั้งสเปนและยูเครนทะลุเข้ารอบเเบ่งกลุ่มยูโรได้สำเร็จ ที่สำคัญเดอะการ์เดี่ยนเองยังยกให้โคซัคเป็นโค้ชที่เข้ามาขันเกมรับให้เเก่ทีมสโลวาเกียชุดนี้ให้เหนียวเเน่นยิ่งขึ้นเพราะในบรรดาสถิตินับตั้งเเต่โคซัคลงคุมทีมชุดใหญ่ ทีมชาติสโลวาเกียมีอัตราการเสียประตูที่น้อยมากและผลส่วนมากมักจบลงด้วยสกอร์ที่เบียด เช่น 1-0, 2-1, 0-0, 1-1 เรียกได้ว่าเป็นโค้ชที่ทำงานละเอียด
ตลอด 50กว่านัดที่โค้ชโคซัคลงคุมทีม ทีมชาติสโลวาเกียเสียประตูแบบเละเทะมีเพียงเเค่2นัดเท่านั้น นั่นคือเกมกับเยอรมันที่แพ้ ไป 3-0 และ เกมอุ่นเครื่องที่เล่นกันที่ยูเออีล่าสุดที่เจ้าตัวเล่นส่งเด็กลงสนามค่อนทีม ผลก็อย่างที่เห็นแพ้สวีเดนไปขาดลอย 6-0
ระบบ 4-2-3-1 คือระบบที่ทีมใช้เป็นประจำแถมโคซัคยังวางให้ มาเร็ค ฮัมซิค สตาร์ดังของทีมเล่นเป็นตัวฟรีคอยป่วนแนวรับคู่เเข่ง นี่คือเหตุผลที่ทำไมสโลวาเกียถึงสามารถพาบอลเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างคล่องเเคล้วเพื่อหาวิธีทะลุเเนวรับคู่ต่อสู้ไปพร้อมๆกับเน้นเรื่องการครอบครองบอลไปพร้อมกัน คือ เจาะไม่ได้ก็ไม่เสียบอล ถ่ายไปมาเพื่อรอโอกาส (แบบเดียวกับที่โค้ชราเยวัชกำลังใช้กับไทยนั่นแหละเพียงเเต่ว่านักเตะของเขาคายบอลแม่นกว่าเรา)

สกอร์ส่วนใหญ่ที่ทีมทำได้ไม่ได้มาจากการฝากความหวังไว้ที่ศูนย์หน้า ร่างโย่งทั้งอดัม เนเม็ก จากสเตอัว บูคาเรส ที่เจ้าตัวสูงถึง190 ซม.หรือไมเคิล ดูริส จากสโมสรอานาธอซิส ฟามากุสต้าของไซปรัส รายนี้สูงน้อยลงมาหน่อยที่183ซม.เเต่ทีมมักได้ประตูจากแผงมิดฟิลล์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวฮัมซิคเอง หรือบรรดาเพื่อนร่วมทีมอย่าง Juraj Kucka, Róbert Mak และ Vladimír Weiss (3คนนี้คือคีย์แมนในการเบิกสกอร์ของทีม)
จุดเด่นของโค้ช: 1) ชั่วโมงบิน/ประสบการ์ณในระดับนานาชาติ ด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ รวมถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของโค้ชโคซัค คงไม่ต้องแปลกใจถึงประสบการ์ณและแทคติดที่เขาจะใส่ให้แก่ทีมลงไปเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมนะคับว่าโคซัคสมัยคุมสโมสร FC Košice ในลีกสโลวาเกีย เขาพาทีมคว้าเเชมป์ได้ถึง2สมัย (ฤดูกาล1996-1997, 1997-1998) แถมยังพา MFK Košice คว้าเเชมป์บอลถ้วยได้อีกด้วย
2)ความสัมพันธ์กับลูกทีมที่อยู่กันมานานกว่า 5 ปี (ลูกทีมรู้เเละเข้าใจแทคติกของโค้ชเป็นอย่างดีเรียกได้ว่าฟอร์มทีมกันมาด้วยกัน) ในบรรดาทีมที่เข้าร่วมคิงส์คัพหนนี้ สโลวาเกียคือทีมที่มีโค้ชอยู่กับลูกทีมนานมากที่สุด
3) ประสบการ์ณที่คลุกคลีอยู่ในฟุตบอลสโลวาเกียอย่างยาวนานถึง 23 ปี ทำให้รู้จักนักเตะท้องถิ่น,วัฒนธรรมรวมถึงระบบการทำงานในทีมเป็นอย่างดี โค้ชโคซัคเริ่มต้นคุม FC Lokomotíva Košice สโมสรเล็กๆในลีกสโลวัคในปี 1995 เเละตั้งเเต่นั่นเป็นต้นมาเขาก็ไม่เคยออกไปไหนไกลจากประเทศนี้เลย อยู่คุมทีมสโมสรในสโลวาเกียเรื่อยมาจนได้รับความไว้วางใจให้เป็นนายใหญ่ทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2013 ได้สำเร็จ เรียกได้ว่ารู้ไปถึงรากของฟุตบอลสโลวัค
ทีมต่อมาคือ Gabon ของโค้ช อันโตนิโอ กามาโช่ (เด๋วนะ...ชื่อนี้คุ้นๆ ไม่ผิดหรอกคับคนที่พาทีมชาติจีนแพ้ไทยคาบ้าน 1-5 ในสมัยที่พี่โก้ทำทีม นั่นแหละคับ)โค้ชกามาโช่ ปัจจุบันคือนายใหญ่ทีมชาติกาบอง ด้วยประสบการ์ณอันเลวร้ายสมัยคุมทีมชาติจีนที่เปิดบ้านแพ้ทีมชาติไทย 5-1 ทำให้นัดดังกล่าวถือเป็นชนวนเหตุให้สมค.ฟุตบอลจีนประกาศแยกทางกับโค้ชทันที น่าสังเกตุว่า...นี่อาจเป็นนัดล้างตาระหว่างเขากับทีมชาติไทยก็อาจเป็นได้

กามาโช่โด่งดังอย่างมากในสมัยที่เขาคุมสโมสร รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่ในสเปน เขาได้รับคำชื่นชมในด้านของการให้โอกาสนักเตะหน้าใหม่ๆลงสนาม โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงหรือผลงานในอดีต เรียกได้ว่า "อยู่กับปัจจุบันและมองไปข้างหน้า" ใครเล่นดีซ้อมได้ตามแทคติก คือคนที่เขาจะเลือกเท่านั้น ดังนั้นการจัดตัวผู้เล่นลงสนามจึงเป็นอะไรที่สื่อคาดเดาได้ยากลำบากมากและจุดนี้นี่เองที่ทำให้ปรัชญาการทำทีมฟุตบอลของเขาได้รับการให้เกียรติจากบรรดานักเตะในทีมหลายคนโดยเฉพาะบรรดารุ่นน้องและนักเตะที่ไม่ค่อยดังเพราะมองว่าทีมเวิร์คของทีมย่อมดีกว่าระบบรายบุคคลแต่ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่บรรดาซีเนียร์ในทีม จนทำให้ชีวิตในการคุมทีมราชันชุดขาวจบสิ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะเขาดร็อปสตาร์หลายคนในการลงเป็น11ตัวจริงในหลายๆนัดและ1ในนั้นก็คือ เดวิด แบ็คแฮม
แม้กระทั่งการเข้ามารับงานคุมทีมชาติอย่างทีมชาติจีน โค้ชกามาโช่เข้ามารับงานด้วยปรัชญาการทำทีมชาติจีนที่เน้นเรื่องสภาพความฟิตและความสดของร่างกายมากกว่าประสบการ์ณหรือความโด่งดังของนักเตะ ครั้งนั้นเขาบอกกับสมค.ฟุตบอลจีนว่าต้องการมาพัฒนาฟุตบอลทีมชาติจีนด้วยแผนงานระยะยาวและต้องการผลักดันนักเตะรุ่นๆของจีนออกสู่ตลาดนานาชาติพร้อมทั้งวางเป้าพาทีมไปบอลโลกให้ได้ในปี2014 หรืออย่างน้อยก็ต้องมีอันดับฟีฟ่าที่ดีกว่าญี่ปุ่นเเละเกาหลีใต้ นั่นจึงเป็นที่มาของสัญญาระยะยาว3ปีที่ได้เซ็นกันโดยเจ้าตัวฟันเงินเดิอนมากถึง8ล้านดอลล่าร์ต่อปีถือเป็นการจ่ายสูงที่สุดนับตั้งเเต่มีการจ้างโค้ชต่างชาติมาคุมทีมชาติจีนในยุคนั้น
ในนัดที่เขาพาทีมเปิดบ้านแพ้ไทยขาดลอย มีเสียงวิพาษ์วิจาร์ณถึงการจัดตัวผู้เล่นลงสนามที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่งและทดลองนักเตะมากเกินไป แฟนบอลหลายรายออกมาสับโค้ชชนิดที่ว่าทำทีมชาติจีนได้เเบบชนิดที่ขาดแรงบรรดาลใจในการลงเล่นทั้งๆที่ทรัพยากรของทีมในช่วงนั้นถือว่าดีมากๆ
หนนี้กับทีมชาติกาบองที่มีสตาร์ดังหลายคนและนักเตะในทีมหลายตำแหน่งยังค้าเเข้งในลีกยุโรป ต้องเรียกได้ว่าเป็นงานหินจริงๆของทีมชาติไทยในนัดเเรก ระบบการเล่นของโค้ชกามาโช่ที่มักใช้คือ 4-3-3 และ 4-4-2 โดยอาศัยปีกสองข้างเป็นตัวจู่โจม โดยในรายการ 2017 Africa Cup of Nations ทีมกาบองภายใต้การนำของกามาโช่ตกรอบคัดเลือกอย่างน่าเสียดายด้วยผลงานเสมอรวด 3 นัด (เสมอ1-1 Guinea-Bissau, เสมอ 1-1 Burkina Faso, และ 0-0 Cameroon)
จุดเด่นของโค้ช: 1)สภาพความฟิตของนักเตะ โค้ชกามาโช่เน้นมากในการเลือกนักเตะที่สดลง11ตัวจริงแถมยังนิยมใช้นักเตะรุ่นๆเป็นเเกนหลัก เรียกได้ว่าให้โอกาสอย่างทั่วถึงทุกคน โดยในบอลโลกรอบคัดเลือกที่ผ่านมา อายุเฉลี่ยของทีมชาติกาบองอยู่ที่25ปีเท่านั้น เชื่อเหลือเกินว่าเกมแรกกับไทย เขาก็ยังจะคัดนักเตะรุ่นๆลงหวดกับเราอย่างเเน่นอนและหากเราจะต่อกรกับกาบองได้อย่างสนุก นักเตะไทยจะต้องวิ่งให้ได้ตลอด 90นาทีแบบไม่มีหมด มิฉะนั้นอาจผิดหวังตกรอบเเรกเอาได้
2)กาบองภายใต้การนำของกามาโช่ มีสถิติในการยิงประตูในช่วง20นาทีเเรกอยู่หลายเกม (ชอบยิงเร็วเเละเน้นผลสกอร์จบ1-0) อาจถือเป็นไม้เด็ดของทีมชุดนี้ ที่สำคัญใน10เกมย้อนหลังที่กาบองยิงประตูได้เร็วมีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่ผลจบลงด้วยความพ่ายแพ้ (เเพ้มาลี 2-1)
ทีมสุดท้ายคือ UAE ของพ่อมดมหัศจรรย์ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่
หากพูดถึงซัคเคโรนี่ โค้ชพ่อมดแห่งอิตาลี คงไม่มีใครไม่รู้จักเขา กับวีรกรรมพาเอซี มิลาน ผงาดในลีกอิตาลีด้วยการคว้าเเชมป์สคูเดตโต้ ปี199899 แถมยังพ่วงดีกรีพาญี่ปุ่นคว้าถ้วยเอเชี่ยนคัพได้สำเร็จในปี 2011 (กาต้าร์เป็นเจ้าภาพ)

ฟอร์เมชั่นคู่ใจของโค้ชรายนี้ คือ ระบบ 4-2-3-1 แต่ที่มันพิเศษคือเจ้าตัวเองเคยพูดเเบบติดตลกว่าของเขามันพิเศษกว่าของคนอื่นตรงที่เป็น ต้นคริสมาสใหญ่ๆ หรือ ปัจจุบันถูกเรียกว่า 4-2-3-1 diamond นั่นแหละ มันคือระบบการเล่นเกมรับแบบเต็มตัวที่สุดเเสนจะน่าเบื่อและเน้นผลอย่างมากเพราะเขาเล่นทิ้งกองหน้าไว้ลำพังเพียงคนเดียวแถมยังระบุให้เป็นหน้าต่ำอีกต่างหาก (อย่าพยายามวิ่งเข้ากรอบเขตโทษเด็ดขาดจนกว่าคุณจะเห็นว่ามีคนจากแดนกลางดันขึ้นมาช่วยคุณเพราะคุณจะไม่ได้บอล)
ฟุตบอลของซัคเคโรนี่จึงเป็นฟุตบอลที่ไม่เน้นความวูปวาบ, ซู่ซ่า, หวือหวา เลยเเม้ว่าจะมีสตาร์ดังในทีมหลายคนแต่เขาก็ยังคงใช้ปรัชญาในการทำทีมโดยเน้นไปที่ระบบของทีมมากกว่าและที่สำคัญตัวรุกต้องช่วยไล่บอลด้วยไม่ใช่รอเข้าฮอตหรือรอรับบอลจากเพื่อนเพียงอย่างเดียว
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวกับสมค.ยูเออี โค้ชรายนี้ได้ให้คำมั่นว่าจะเข้ามาพัฒนาผลงานของทีมชาติโดยที่เจ้าตัวบอกว่าเเม้ว่าในทีมจะมีสตาร์ดังอย่างคาอิลและอับดุลรามานแต่คนอื่นๆก็ล้วนสำคัญเพราะฟุตบอลเล่นกัน11คน เเถมเขายังรู้สึกว่ายูเออีชุดนี้เสียประตูง่ายและมากเกินไปในบอลโลกรอบคัดเลือกที่ผ่านมา (พูดเหมือนโค้ชราเยวัชของเราเป๊ะ)

ความน่ากลัวของเขาไม่ใช่มีเเค่แทคติกเพียงอย่างเดียวเเต่เขาคือโค้ชที่สร้างเเรงบันดาลใจให้นักเตะในทีมหลายคน เเม้ว่าจะพึ่งเข้ามารับงานคุมยูเออีได้ไม่นานเเต่ด้วยความสามารถที่ว่ามาก็สามารถพาทีมคว้ารองเเชมป์ กัลฟ์คัพครั้งล่าสุดได้สำเร็จชนิดที่ว่ารอบชิงฯเเพ้จุดโทษโอมานเเบบน่าเสียดาย อ้อ! ที่สำคัญคือ ทีมยูเออีไม่เสียประตูเลยเเม้เเต่ลูกเดียวตลอดทัวร์นาเม้นซ์ (เห็นไหมล่ะคับ...ผมบอกเเล้วว่า หลังเสริมเหล็กยึดด้วยซีเมนซ์อีกชั้นจริงๆ)
จุดเด่นของโค้ช 1)เกมรับที่อัดเเน่นด้วยแทคติก หลายครั้งที่โค้ชชาวอิตาลีเลือกเริ่มเกมด้วย 4-2-3-1 เเต่ก็มีหลายนัดที่ระหว่างช่วงพักเบรคเขาเปลี่ยนฟอร์เมชั่นให้ลูกทีมเล่น 4-3-3 แทนแต่ก็ยังให้กองหน้าทั้ง3คนลงมารับและไล่บอลจากแนวกลางอยู่ดี นี่คือโค้ชที่เน้นมากเรื่องเกมรับของทีม
2) เกมโต้กลับที่น่ากลัว ในช่วงที่เขาคุมทีมชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่นชุดดังกล่าวถูกขนานนามว่าเล่นฟุตบอลโต้กลับที่รวดเร็วและน่ากลัวมากโดยโฟกัสที่แผงมิดฟิลล์เป็นหลักไม่กี่คน เล่นบอลน้อยจังหวะ เพื่อส่งฟุตบอลไปข้างหน้าให้ได้เร็วที่สุด
เชื่อเหลือเกินว่ายูเออีชุดนี้ภายใต้การนำของเขาจะน่ากลัวอย่างมากเพราะมีเพลย์เมกเกอร์ระดับคว้ารางวัลนักเตะเบอร์หนึ่งของเอเซียอยู่ในทีมแถมยังมีตัวรุกที่รวดเร็วหลายคนทั้งมาบฮุทและคาอิล นี่จึงเป็นส่วนผสมที่สุดลงตัวระหว่างนักเตะเเละโค้ช (ส่วนตัวผมมองว่ายูเออีจะเข้ารอบชิงฯรายการนี้โดยผ่านสโลวาเกียเเน่นอน)
นี่คือการดวลกันของกึ๋นของโค้ชดัง4คนนี้



เมื่อเขามาโชว์ให้เห็นถึงหน้าบ้าน
แล้วอย่างนี้เรายังจะไม่ไปดูคิงส์คัพหนนี้ได้หรอ...ปล.น้องๆหลานๆ BNK48 ยังไปให้กำลังใจทีมชาติไทยถึงขอบสนาม เเล้วเหล่าโอตะกับแฟนบอลชาวไทยล่ะ...ขอเสียงหน่อย
ผิดพลาดประการใด กราบ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคับ
ที่มาข้อมูลประกอบ:
https://en.wikipedia.org/wiki/J%C3%A1n_Koz%C3%A1k_(footballer,_born_1954)https://en.wikipedia.org/wiki/Slovakia_national_football_team#Current_squadhttps://www.theguardian.com/football/2016/jun/04/euro-2016-slovakia-team-guide-taciticshttps://en.wikipedia.org/wiki/Gabon_national_football_teamhttp://www.football-lineups.com/coach/1198/Tactics/https://www.theguardian.com/football/2004/sep/20/europeanfootball.sporthttps://www.thenational.ae/sport/afcon-2017-fiery-jose-antonio-camacho-brings-real-madrid-pedigree-to-gabon-role-1.34090http://www.scmp.com/sport/china/article/1262784/china-players-accused-corruption-after-heavy-defeat-against-thailandhttps://en.wikipedia.org/wiki/Jos%C3%A9_Antonio_Camacho#Honourshttps://en.wikipedia.org/wiki/Gabon_national_football_teamhttps://en.wikipedia.org/wiki/2017_Africa_Cup_of_Nations_Group_Ahttps://sandalsforgoalposts.com/2017/01/06/gabon-afcon-2017-team-guide-tactics-key-players-and-predictions/https://en.wikipedia.org/wiki/2018_FIFA_World_Cup_qualification_%E2%80%93_CAF_Second_Round#Mozambique_v_Gabonhttps://en.wikipedia.org/wiki/Gabon_national_football_team#Recent_results_and_fixtureshttps://en.wikipedia.org/wiki/2011_AFC_Asian_Cuphttps://en.wikipedia.org/wiki/Alberto_Zaccheroni#Honourshttp://bleacherreport.com/articles/2079127-tighes-2014-world-cup-tactics-board-analysing-alberto-zaccheronis-japanhttp://www.footballitaliano.co.uk/p6_66_6879_in-defence-of-three-men-an-analysis-of-serie-as-latest-tactical-shift.html#.WqStmtR96t8https://en.wikipedia.org/wiki/23rd_Arabian_Gulf_Cup#Group_stagehttps://en.wikipedia.org/wiki/United_Arab_Emirates_national_football_team#2018https://en.wikipedia.org/wiki/Alberto_Zaccheronihttps://www.thenational.ae/sport/football/alberto-zaccheroni-laments-slow-start-but-pleased-with-effort-of-uae-players-in-defeat-to-haiti-1.674685https://www.nippon.com/en/column/g00178/http://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/bnk-48-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%94-shonichi-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B8%9E/1rz1sa645humw173tbljydbfh2https://www.fourfourtwo.com/th/features/krachumkrachwydiikhrab-cchaaeyn-yim-bnk48-rwmcchykhingskhaphhttp://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B8%9E-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%9C-16-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7-bnk48-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B8%9E/1934h7upmmsjt1816ykcj9bkce