เรื่องโดย akinson149
สวัสดีคับ บทความในวันนี้เป็นบทวิเคราะห์วิจาร์ณที่เขียนขึ้นในเชิง "ติเพื่อก่อ" นะคับและเป็นการผนวชเสียงแนะนำติชมต่างๆ ของกูรูฟุตบอล, นักข่าว-คอลัมนิสจากหลายสื่อรวมถึงอดีตโค้ชทีมชาติชุดแชมป์ซีเกมสูล่าสุดอย่าง โค้ชโชค ทำออกมาเป็นบทความให้ดูน่าอ่านน่าสนใจขึ้น ผมแอบหวังไว้นิดๆว่าอาจมีทีมงานโค้ชโย่งได้เข้ามาอ่าน

ผลจบลงไปแล้วเมื่อวานนี้ ทีมไทยได้เพียง1เเต้มแบบชนิดที่ว่า "ลากเลือด" ทำไมผมถึงพูดเเบบนี้หรอคับ มันมีสาเหตุที่มาที่ไปของคำที่ผมใช้คือตลอด90นาทีที่เราๆท่านๆได้รับชม ทีมไทยไม่ได้ดูดีกว่าทีมชาติอินโดนีเซียเลยแถมบางช่วงบางเวลาดูเหมือนว่าเราเกือบจะแพ้เอาเสียด้วยเพราะจังหวะบุกของอินโดทำได้ค่อนข้างดี วูปวาปเสียเหลือเกิน ในขณะที่ไทยเองเหมือนทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันซักอย่างและประตูที่ไทยได้ก็มาจากความผิดพลาดของเขาเอง ในขณะที่จังหวะที่เราเสียจุดโทษที่กรรมการชาวจีนให้อินโดนั้น วินาทีนั้นมันก็คือ "จุดโทษชัดๆ" นะคับ (เเม้ผจก.สาวสวยคุณเดียร์จะให้สัมภาษณ์หลังเกมกึ่งเสียดายว่า "จังหวะนั้น ถ้าเราเเค่เอาตัวไปยืนบล็อค เขาก็ยิงเราไม่ได้เเล้ว" ก็ตาม) เเต่ในเกมฟุตบอล มันไม่มีคำว่า "ถ้า" เพราะมันคือการตัดสินใจในแต่ละจังหวะและในนัดอินโดเมื่อวานนี้มันชัดเจนว่า มีการฟาลว์เกิดขึ้นจริงจากทีมที่เล่นเกมรับและมันมีผลต่อผู้เล่นในทีมรุกในการทำประตูแถมจังหวะการปะทะกันอยู่ในเขตโทษ That's it!
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่พารากราฟแรกที่ผมเขียนเเต่มันคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างหาก หากไทยเรายังหวังจะเอาเหรียญทองคล้องคอกลับบ้าน นี่คือ5สิ่งที่แฟนบอลอย่างเราๆได้เห็นในเกมเมื่อวาน (ที่หวังว่าจะได้รับการใส่ใจและสนใจมากขึ้นไปกว่านี้)
1. ทัศนคติในการทำทีมของโค้ชโย่งต้องรีบเปลี่ยน (ด่วนที่สุด)ก่อนเกมการเเข่งขันจะเริ่ม บรรดาสื่อดังๆหลายสื่อต่างยกให้ทีมเวียดนามเป็นเต็ง1ที่จะได้เหรียญทอง (ทั้งfox sport และ Goal.com) เพราะจากผลงาน u23 championship รอบคัดเลือก เวียดนามทำได้ดีกว่าไทยค่อนข้างเยอะ (มีหกเเต้มจากการชนะ2แพ้1 แถมการเเพ้เป็นการเเพ้เกาหลีใต้2-1 แบบน่าเสมอเสียด้วยในขณะที่พี่ไทยที่มีอินโด, มองโกเลีย และมาเลย์ แม้ไม่แพ้ก็จริงแต่ก็ชนะได้เเค่นัดเดียว) ยิ่งพอการประกาศการตัดตัว20คนออกมายิ่งเเสดงให้เห็นถึงขุมกำลังที่เมื่อเทียบกัน ปอนต์ต่อปอนต์ เวียดนามก็ยิ่งดูมีภาษีกว่า


ทีมเวียดนามนำทัพมาโดย เหงียนคองเฟือง สตาร์ดังของทีมแถมเป็นผู้เล่นที่ขึ้นชุดใหญ่ไปแล้วในขณะที่ไทย นำมาโดยเจนรบ สำรองจากสโมสรเทโร ไม่เพียงเท่านั้นการประกาศชื่อผู้เล่น20คนสุดท้ายนี้ยังเเสดงออกถึงกึ่นของโค้ชอีกด้วยเพราะสิ่งที่น่าสนใจคือ ทีมเวียดนามนำทัพมาโดยมีผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้ามากถึง 5 คนในขณะที่ไทยเราหนีบไปแค่2คน (เเถมยังตัดสุภโชค สารชาติ กองหน้าธรรมชาติออกจากทีมแบบงงๆ)...ทำไมจึงเอากองหน้าไปน้อย?และโค้ชโย่งกำลังคิดอะไรอยู่? (นี่คงเป็น2คำถามที่อยากให้โค้ชโย่งตอบ) เพราะนี่คือฟุตบอลระดับอาเซียนและทีมไทยไม่ใช่ทีมระดับต้นๆของรายการนี้หรอคับ?
2. ทีมงานโค้ชควรรู้เขาและรู้จักเราให้มากกว่านี้โค้ชโย่งดูจะประทับใจกับแผนการเล่นของมิโลวาน ราเยวัช มากเกินไปแบบไม่ดูเวล่ำเวลาหรือเปล่า? (เพราะตนเองเป็นผู้ช่วยทีมชาติชุดใหญ่อยู่และได้เรียนรู้จากลุงมิโล) เพราะจากทั้งรายการก่อนหน้านี้ใน u23 championship และซีเกมส์ เขาให้ทีมลงเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 เป็นหลักก่อนจะเลือกปรับในระหว่างเกม อยากบอกว่าระบบการเล่นมีผลอย่างมากต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสนาม ทั้งตำแหน่งการพาบอลของผู้เล่น, ตำแหน่งการยืน, การเข้าทำ และรวมไปถึงรุปเกม หรือ ภาษาบ้านๆ เราเรียกว่า "ทรงบอล"
ผมเคยเขียนบทความนึงฝากไว้ในพื้นที่ใน TSS นี้เกี่ยวกับ 4-2-3-1 ว่ามันมีข้อดีในการปิดเกมรุกคู่เเข่งได้ดีเเถมยังช่วยเสริมให้ทีมสามารถเล่นเกมโต้กลับได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพแต่ข้อเสียของมันก็พอมีอยู่เหมือนกันคือ การเล่นด้วยระบบนี้คือการเล่น เกมรับมากกว่าเกมรุก และ การยืนตำแหน่งของกองกลางและเซ็นเตอร์สำคัญมากๆ (คุณต้องมั่นใจว่ากองกลางของคุณมีเซ้นส์บอลที่ดีและมีทักษะการจ่ายบอลและสามารถเอาตัวรอดในสถานการ์ณ1ต่อ1ได้)
ในเกมเมื่อวาน ผู้เล่นหลายตำแหน่งถูกใช้งานผิดจากตำแหน่งที่เขาลงเล่นให้สโมสรต้นสังกัด จากความหวังว่าจะได้ใช้ประโยชน์จากกองกลางตัวทำเกมและปีกทั้ง2ข้าง กลายเป็นการเพิ่มอุปสรรคและภาระในการปรับตัวของนักเตะเพื่อค้นหาตัวเองช่วยทีมในสนาม (รู้จักเเต่เขาเเต่เราล่ะคับโค้ช?)
ทีมไทยซึ่งดูมีภาษีกว่าทุกทีมในรายการนี้เเต่โค้ชเราดันเลือกใช้ระบบการเล่นแบบเน้นรอตั้งรับและสวนกลับแทนที่จะเลือกระบบที่เสริมในการเล่นเกมรุกอย่าง 4-3-3 หรือ 4-4-1-1 นี่คือจุดที่ทำให้แฟนบอลสงสัย (อย่าลืมนะคับ ทีมไทยมีเวลาในการเตรียมตัวร่วมปี แถมดูเทปคู่เเข่ง ผมเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า2-3รอบแต่ไฉนเหมือนเราจะรู้เขาเเต่ดันไม่รู้จักเราแบบนี้)
3. รีบหาผู้เล่นคนอื่นในทีมมาเพิ่มมิติในเกมรุก (วางบทบาทกันใหม่) ทีมงานโค้ชดูจะหวังไว้มากเหลือเกินกับบรรดาผู้เล่นที่เล่นในตำแหน่ง วิงแบ็คและปีกทั้ง เควิน ดีรอมรัมย์, ชัยวัฒน์ บุราณ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ซึ่งในช่วงเเรกๆ ทั้งสามคนก็ปั่นป่วนแนวรับของอินโดได้เป็นอย่างดีเเต่พอโค้ช หลุยซ์ มิย่า เริ่มจับทางเราได้ทุกอย่างก็ดูจะไม่เป็นใจสำหรับนักเตะทั้ง3คนเสียเท่าไรเพราะเลี้ยงไปยังไงก็ติด, จังหวะพาบอลไปก็ไม่ต่อเนื่องแถมผู้เล่นอินโดในครึ่งหลังยังถูกโค้ชสั่งมาให้เล่นเกมติดดาบกับนักเตะไทย3คนนี้อีกด้วย พอ3คนถูกตัดออกจากเกมแถมมีหมดให้เห็นเพราะขึ้นลงบ่อย เเนวรุกไทยซึ่งเมื่อวานนี้มีมิติการเข้าทำเพียงแนวทางเดียวเลยคือ บอลด้านข้างริมเส้น ทุกอย่างก็จบ นั่นล่ะคับ ที่มาของบอลสาด, บอลโยน และ แนวทางการเล่นโบร่ำโบราญที่แฟนบอลไทยได้เห็นในครึ่งหลัง (โยนยาวและวิ่งเปรี้ยว)


ช่วงเวลาหลังจากนี้ ก่อนเกมกับติมอร์ โค้ชจะต้องเร่งหาผู้เล่นในแนวรุกเพิ่ม อาจดันนักเตะบางคนขึ้นมาเล่นหน้าต่ำ หรือใช้2กองกลางตัวรุก ในการซ้อมหลังจากนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเน้นการพาบอลเข้าไปจุดอันตราย, ต่อบอลตามช่อง หรือ เล่นง่ายๆแบบวันทู (ซึ่งเราแทบไม่เห็นเลยในเกมเมื่อวาน) ทั้ง เชาว์วัฒน์ วีระชาติ และ พิชา อุทรา ควรได้รับโอกาสเพราะทั้ง2คนจัดได้ว่าเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างสม่ำเสมอและเป็นนักเตะที่มีเซ้นส์บอลค่อนข้างดี การมีเขาทั้ง2ลงเป็น11ตัวเเรกจะช่วยเพิ่มมิติการเข้าทำของไทยมากขึ้นกว่าที่เราเห็นเมื่อวานนี้เเน่นอน
4. เลิกเล่นเกมหวังผลและคิดว่าเราจะทำได้ใน90นาทีเพราะหลังจากนี้ตั๋วเข้ารอบอาจตัดสินด้วยประตูได้-เสียโค้ชโย่ง ชอบเหลือเกินในการสั่งลูกทีมให้เล่นแบบ เพลย์เซฟ นั่นคือ ไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย หลายครั้ง หลายรายการที่เราเห็นจะเห็นได้ว่าพอเรานำ 1-0 ทีมไทยจะเปลี่ยนแนวทางการเล่นมาเลือกเล่นเกมตั้งรับรอสวนกลับ เห็นได้ในหลายจังหวะอย่างนนท์ ม่วงงามที่ถูกกรรมการชาวจีนเตือนหลายครั้งในจังหวะเอาบอลมาตั้งเตะเพราะเขามองว่าหลังจากไทยออกนำ ผู้รักษาประตูของไทยพยายามถ่วงเวลา ยิ่งเกมเมื่อวานการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเปลี่ยนกองหลังลงไปแทนยิ่งเเสดงให้เห็นว่า โค้ชโย่งอาจพอใจเเล้วด้วยผลสกอร์ 1-1 หรือไม่ก็อาจติดประมาทว่าใน4เกมที่เหลือ ไทยน่าจะทำได้
การมีเเต้มเดียวในเกมเเรกอาจไม่เสียหายเท่าไร หากผลงานของทีมอยู่ในมาตราฐาน (ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ) ซีเกมส์ครั้งก่อน ทีมไทยจั่วหัวด้วยการอัดลาว 6-0 ในนัดเเรกของรอบแบ่งกลุ่มแถมในรอบนี้พี่ไทยยังยิงคู่เเข่งมากถึง16ตุงเสียแค่1ประตู ทิ้งทุกทีมชนิดไม่เห็นฝุ่น ช่วงเวลานั้นสื่อทุกสำนักเมื่อได้เห็นฟอร์มการเล่นของไทยต่างยกให้พี่ไทยเป็นว่าที่เเชมป์ตั้งเเต่ยังไม่เตะรอบน็อคเอ้าท์ เวลาผ่านมาแค่2ปีทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเมื่อทีมไทยเลิกเป็นทีมที่เล่นบอลอย่างสนุกดุดัน-เน้นต่อบอลไปมาเพื่อหาช่องเข้าไปยิงคู่เเข่งแบบเพลินๆเท้ากลายเป็นทีมเงียบๆที่เล่นบอลแบบหวังผล (จนเกินไป)
ช้างศึกภายใต้การนำของโค้ชโย่งชนะคู่เเข่งในแบบชนิดที่ว่าเด็ดขาดเกิน2ประตูได้เพียงเเค่3นัดจากทั้งหมด14นัด (ชนะสโมสรกังวอน เอฟซี 6-2 ทันเนียนคัพ, ชนะมาเลย์ 4-0 ดูไบคัพ, ชนะมาเลย์ 3-0 ยู23ชิงแชมป์) และ5จาก14นัดจบลงด้วยผลเสมอแบบหยุ่มหยิ๋ม 0-0 และ 1-1 นี่คือปัญหาที่ทีมงานโค้ชจะต้องรีบทบทวนและรีบแก้ไข (เห็นข่าวว่าเเม้เเต่ประธานเทคนิกยังออกอาการเป็นห่วงจนต้องรีบซื้อตั๋วเครื่องบินไปมาเลย์แบบทันทีที่ไทยเสมออินโด1-1 เห็นได้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น)
แม้เเต่อดีตนายใหญ่ชุดพาไทยคว้าเเชมป์ซีเกมส์อย่างโค้ชโชค ยังออกอาการเป็นห่วงเพื่อนเก่าไม่ไหวและยังเเนะออกมาเลยว่าหลังจากนี้ ไทยเล่นแบบนี้ไม่ได้เเล้วนะเว้ย..เพราะการลุ้นเข้ารอบอาจจำเป็นต้องดูประตูได้-เสีย เพราะเส้นทางต่อจากนี้ก่อนเกมกับเวียดนาม (เจอติมอร์, กัมพูชา และ ปินอย)ไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องชนะแบบมีหลายตุงและเสียประตูให้น้อยที่สุด
อย่าลืมนะคับแม้เเต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สมัยคุมสโมสรบาร์เซโลน่า ยังเคยให้สัมภาษณ์เลยว่า "เมื่อทีมของคุณมีศักยภาพที่ดีกว่า (คู่เเข่ง) การบุกก็คือการเล่นเกมรับที่ดีที่สุดเพราะฟุตบอล หากคุณจะเป็นผู้ชนะ คุณต้องทำประตูให้มากกว่าที่คุณเสีย"
5. ความฟิตนักเตะไทยยังน่าห่วง
นักเตะทีมไทยชุดนี้หลายคนเป็นสำรองให้สโมสรแถมบางเดือนลงเล่นแค่ไม่กี่นัด นี่คือปัญหาของนักเตะชุดนี้ เกมเมื่อคืนแสดงให้เราเห็นเเล้วว่านักเตะไทยไม่ได้ฟิตกว่าอินโดเลย หมดตั้งแต่60-70นาทีเเรก เมื่อความฟิตเราสู้เขาไม่ได้ มันก็ต้องเเก้ด้วยแทกติกแบบเดียวกับที่โค้ช เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ เคยใช้บ่อยๆ แม้กระทั่งเกมกับไทยที่ราชมังฯ ในนัดที่ซาอุขยี้ไทย 3-0 คาบ้าน เกมในวันนั้นกุนซือชาวดัดซ์ออกมายอมรับหลังเกมว่าสกอร์ 3-0 ดูจะเวอร์ไปหน่อยสำหรับลูกทีมของเขาและสิ่งที่เห็นในสนามเพราะมันเป็นเกมที่ใช้พลังงานค่อนข้างมากและมีความกดดันสูง เขารู้ดีว่านักเตะของเขาไม่สามารถยืนระยะได้ถึง90นาทีเพราะเริ่มจะหมดและเเพ้สภาพอากาศที่ไทย เขาจึงเลือกที่จะให้นักเตะไทยได้ครองบอลเเต่ไม่สามารถเข้าพื้นที่อันตราย(ในกรอบเขตโทษ)ได้ นั่นคือเปลี่ยนมาเล่นคุมโซนเเละเน้นการโต้กลับเร็วและให้นักเตะรีบตัดฟาวล์ไม่ให้ไทยได้เล่นเกมอย่างไหลลื่น (ตีหัวเข้าบ้าน)
เกมเมื่อวานนี้ ทีมไทยออกนำตั้งเเต่ไก่โห่ ในนาทีที่14 และดูเหมือนว่าจะครองเกมปิดสกอร์นี้ได้จนจบครึ่งเเรก ในขณะที่เราทุกคนย่อมรู้ดีอยู่เเล้วว่าอินโดในครึ่งหลังต้องมาเปิดเกมบุกใส่ตั้งเเต่เริ่มครึ่งหลังแต่ไฉน พี่ไทยยังวางตำแหน่งกันได้เเย่มาก หลายครั้งทีมอินโดเข้ามาในพื้นที่อันตรายและได้จบค่อนข้างบ่อย จนแม้เเต่นนท์ ม่วงงามยังออกอาการฉุนเพื่อนร่วมทีมเพราะดูเหมือนว่าปล่อยกันเกินไป ไม่มีใครที่รับบทบาทเป็นตัวโฮลล์ หรือ ตัวตัดเกม พอไทยได้บอลก็รีบโยนให้กองหน้าแล้วสุดท้ายกองหน้าเสียบอล อินโดก็เอาบอลมาบุกใส่และพี่ไทยก็ไม่มีตัวตัดเกม ผิดกับอินโดที่30นาทีหลังจากได้ประตูตีเสมอ ทีมไทยมีโอกาสได้ส่องในกรอบเขตโทษเเค่2ลูกเท่านั้น และเกมรุกส่วนใหญ่ของไทยถูกตัดเกมตั้งแต่กลางสนาม (ตัดฟาวล์)
นี่คือ5ข้อที่ผมเชื่อว่ามีหลายท่าน คิดเเบบเดียวกับผมและเราคงต้องดูกันว่า ซีเกมส์หนนี้ไทยจะไปได้ไกลเเค่ไหนเพราะหนนี้ ซีเกมส์สำหรับโค้ชโย่งและแฟนบอลชาวไทย โจทย์มันไม่ง่ายเลย แชมป์เท่านั้นที่เราๆท่านๆต่างรอคอย
ผิดพลาดอย่างไร กราบขออภัยมา ณ ที่นี้คับ
ที่มาข้อมูล:
http://www.siamsport.co.th/football/seagame2017/view/18648https://www.thairath.co.th/content/1038895http://www.lokwannee.com/web2013/?p=278340https://en.wikipedia.org/wiki/Football_at_the_2015_Southeast_Asian_Games#Group_Ahttp://www.goal.com/th/news/12242/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/2017/08/11/37698532/OFFICIAL-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD20%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8Chttp://www.goal.com/th/news/4280/%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/2016/12/27/30899102/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B23%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81U23%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B21https://en.wikipedia.org/wiki/Thailand_national_under-23_football_team_resultshttps://en.wikipedia.org/wiki/Vietnam_national_under-23_football_team#Current_squad