บริษัท King Power เล็งเห็นการพัฒนาฟุตบอลไทยให้ยั่งยืนต้องพัฒนาฟุตบอลเยาวชนจากฐานราก

แม้จะดูผิดหูผิดตา หลายท่านอาจจะมองว่า เขาเป็นบริษัทเอกชน ลึกๆแล้วก็ต้องการแสวงหากำไรเหมือนกับที่หลายๆบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เคยทำมา แต่หากมาพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว หลายกี่สิบปีที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนสัญชาติไทยรายใหญ่ใดบ้างที่ จะ
มองเห็นปัญหาอันยุ่งเหยิงของวงการฟุตบอลไทยอย่างเข้าใจ และ
กล้าที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไข ส่งเสริม พัฒนา ระบบฟุตบอลชาติตัวเองอย่างถูกต้องและถูกวิธี ไม่ใช่ให้แค่เงินแบบผิวเผิน และ King Power คือบริษัทสัญชาติไทยขนาดใหญ่รายแรก ที่จะเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนฟันเฟืองอันสำคัญเพื่อบุกเบิกและสร้างอนาคตที่สดใสให้กับวงการฟุตบอลไทย
เจ้าของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ที่จะเข้าใจปัญหาของฟุตบอลไทย คือต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือ
รักฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจเมื่อเข้าใจถึงปัญหาแล้วก็ยังไม่พอ จะต้องมีจิตใจที่เมตตา เผื่อแผ่ ต่อสังคมส่วนรวมด้วย
และวันนี้ มันกำลังจะเกิดขึ้น วงการฟุตบอลเยาวชนไทยกำลังจะโชคดี ที่มี King Power
รายได้นับ หมื่นล้าน จากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
ของทีมจิ้งจอกสยาม King Power จะทำอะไรให้กับวงการฟุตบอลของประเทศไทยบนแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเอง
สิ่งที่ King Power กำลังทำนั้น มิใช่การสร้างสนามฟุตบอลสเตเดี้ยมอันทันสมัย ราคา 6000 หรือ 7000 ล้านบาทในประเทศไทย
แล้วตั้งชื่อสนามว่า คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม
แต่เป็นการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่นับว่ามีคุณอนันต์เสียยิ่งกว่า นั่นคือ การช่วยสร้าง และส่งเสริมระบบฟุตบอลเยาวชนที่แข็งแรง
เพื่อเป็นตัวอย่างการพัฒนาอันยั่งยืน แก่ สโมสรฟุตบอลอาชีพ เอกชนสัญชาติไทยขนาดใหญ่ หรือทุกหน่วยงานรัฐที่ต้องการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย

แม้จะเป็นเจ้าของสโมสรในลีกที่ดีที่สุดในโลก แต่ลึกๆในก้นบึ้งของหัวใจแล้วไม่มีทีมไหนเลย จะยิ่งใหญ่และรักได้เหมือนกับ
ทีมชาติไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังวิสัยทัศน์ จากคุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา และคุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
พวกเขาจะสร้างอะไรบ้างให้กับอนาคตฟุตบอลไทย ไปชมกันครับ
ระยะเวลาการพัฒนาแบบระยะสั้นเร่งด่วน จำนวน 5 ปี 2560-2565
มูลค่าการพัฒนา 1000 ล้านบาทต้นน้ำ
โครงการสร้างสนามฟุตบอล 7 คน คุณภาพสูงแบบหญ้าเทียมสีฟ้า
จำนวน 100 สนาม ทั่วประเทศ มอบให้โรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการ มูลค่าสนามละ 2 ล้านบาท มูลค่ารวมราว 200 ล้านบาท เสร็จสิ้น ภายใน 5 ปี ทยอยสร้างปีละ 20 สนาม
หากนำไปเทียบกับโครงการของ AFC ที่สร้างสนามฟุตบอล7คนให้ทุกชาติสมาชิกปีละ 1 สนามเท่านั้น การสร้างสนามคุณภาพสูงจำนวนมหาศาลในระยะเวลา สั้นๆ 5 ปี ของ King Power จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้วงการฟุตบอลเยาวชนไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด
"เราอยากจะพัฒนา โอกาสในการเล่นบนพื้นสนามที่ดี ไปให้เด็กๆครอบคลุมทั่วประเทศไม่ใช่แค่ในกรุงเทพ" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา

ทำไมต้องสนามฟุตบอลแบบ 7 คน เพราะฟุตบอลเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี นั้นโดยหลักแล้วชาติที่เจริญทางด้านกีฬาฟุตบอลมาก จะเน้นให้เด็กได้ใช้เทคนิคส่วนตัว และทักษะ สกิล มากกว่าการเน้นไปที่ผลการแข่งขัน
โครงการแจกลูกฟุตบอลจำนวน 1 ล้านลูก ภายในเวลา 5 ปี มูลค่ารวม 500 ล้านบาท
"นักฟุตบอลเยาวชนทุกวันนี้อยากจะเล่นฟุตบอล ต้องไปขอครูพละเล่น ได้เล่นแค่ลูกเดียวก็อยากเอากลับไปเล่นที่บ้าน ตรงนี้เราจะช่วยส่งเสริมเขาให้ได้อยู่ใกล้ชิดสิ่งที่เขารักมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้เขาได้เล่นฟุตบอลมากขึ้น และวันหนึ่งเขาอาจจะก้าวเป็นนักเตะระดับโลกก็ได้" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
กลางน้ำโครงการสร้างอคาเดมี่ ที่ฟุตบอลที่ดีที่สุดในภูมิภาคใน กรุงเทพมหานคร เลสเตอร์ซิตีเอเชียอคาเดมี่เพื่อรองรับนักฟุตบอลเยาวชนชาวไทย
มีการเปิดคลีนิกฟุตบอลทั่วประเทศโดยนำนักกีฬาเก่าจากสโมสรเลสเตอร์มาฝึกสอน ไปตาม100สนามหญ้าเทียมที่สร้าง และดึงช้างเผือกจากทั่วประเทศรุ่นอายุ 13-17 ปีเข้าอคาเดมี่ที่กรุงเทพ เป็นแนวทางในการคัดเลือก ตัวแทน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อต่อยอดไปสู่ Fox Hunter ที่ดีที่สุด จำนวน 15คน + 1 คนจากโครงการ Football Talent ที่จะได้รับโอกาสเดินทางไปลุยอังกฤษ
"เราจะรับเขามาซ้อมมาฝึกปรับทัศนคติให้เข้าใจว่าการที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพต้องทำตัวแบบไหน ต้องมีวินัยแบบไหน ไม่ใช่ดึกๆเล่นกินมาม่าตอนดึก ซึ่งจะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เขาต้องรู้ว่าตื่นกี่โมง ซ้อมเวลาไหน การตรงเวลาสำคัญอย่างไร เราจะช่วยพัฒนาตรงนี้เข้าไป" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
โครงการ Fox Hunt เป็นโครงการคัดเลือกนักฟุตบอลเยาวชนจากทั่วประเทศ ซึ่งมีความพยายามที่จะทำให้ครอบคลุมไปทั่วประเทศมากที่สุด
โดยคัดจาก ฟุตบอลรายการ King Power Cup 15 คน (คัดจาก96โรงเรียนทั่วประเทศ) และ Goal Football Talent 1 คน (คัดจากผู้สมัคร5000คน)
"คือโครงการที่หา shortcut ให้น้องๆว่าจะทำยังไงให้น้องๆได้มีโอกาสได้เรียนรู้ประสบการณ์ทักษะฟุตบอลและใช้ชีวิตอย่างมืออาชีพ เรามองว่าการใช้ชีวิตจริงๆที่น้องๆต้องไปอยู่ คือต้องเสียสละ ต้องออกจากประเทศที่เป็นบ้านเกิดตัวเองใช้ชีวิตของตัวเองตามลำพัง ต้องสู้กับคนต่างชาติอย่างจริงจัง เรียนรู้ไปในตัวว่าการที่จะต้องซ้อมในแต่ละวันถ้าอยู่เมืองไทยอาจจะเคี่ยวเข็ญให้ซ้อม วินัยสำคัญ จะต้องซ้อมเอง โดยโดนตรวจร่างกายด้วยฝรั่งที่เขาจะไม่รู้เรื่องภาษาเลยแต่เขาต้องศึกษาด้วย เซ็นท์ของเขาเอง เป็นเรื่องที่น้องๆต้องเรียนรู้และเอากลับมาพัฒนาวงการฟุตบอลไทย Fox Hunt จะช่วยให้นักกีฬาไทยมีความสามารถมากขึ้น และประสบการณ์ที่น้องๆได้มาจะมาแชร์ให้กับพี่ๆรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องได้อย่างดี ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าที่เขาไปและได้เห็นได้เล่น ได้แข่ง มันมากกว่าที่ได้เล่นอยู่ที่เมืองไทย ประสบการณ์จะต่างกัน ตอนนี้มันจะยังไม่เห็นภาพมาก เพราะนี่เป็นรุ่นแรกที่ได้กลับมา ถ้าเราทำแบบนี้ได้เรื่อยๆสัก 4 5 รุ่น วงการฟุตบอลไทยมีคนที่เป็นมืออาชีพอยู่ในทีมในไทยมากขึ้นเขาก็จะแชร์ประสบการ แบ่งปัน และจะเกิดแนวทางที่ดีกับฟุตบอลไทยรูปแบบใหม่ โดยที่ฟุตบอลไทยไม่รู้ตัว" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
โครงการอบรมโค้ชฟุตบอลชาวไทยเป็นโครงการในอนาคตที่อยู่ในระหว่างการศึกษา เมื่ออคาเดมี่ในเมืองไทยแล้วเสร็จ จะมีการเริ่มดำเนินการเรื่องการอบรมโค้ช รวมถึงส่งโค้ชชาวไทยไปเรียนโค้ช ในยุโรปด้วยผ่านการคัดเลือกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
"ผมเชื่อว่านักกีฬาเก่งอย่างเดียวไม่พอ โค้ชหรือผู้ฝึกสอนต้องมีความสามารถด้วย" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ปลายน้ำจุดหมายปลายทางของเหล่า Fox Hunt- ลีกใหญ่ในยุโรป ฝรั่งเศษ เยอรมัน สเปน อิตาลี
- ลีกเบลเยียม
- ลีกใหญ่ในเอเชีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย
- ลีกไทย
ผู้แข็งแกร่งคือผู้อยู่รอด สำหรับเหล่า Fox Hunt
พรสวรรค์ วินัย ความรักในฟุตบอล และความอดทน เท่านั้นที่จะนำทางเขาไปยังจุดหมาย ใด ตักตวงและเรียนรู้ทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะพัฒนาฟุตบอลเยาวชนไทย กลุ่มบริษัท King Power ได้ตัดสินใจซื้อ
สโมสร Oud-Heverlee Leuven ในลีกเบลเยียม2 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะในยุโรปชาติอื่นๆตามข้อบังคับต่างๆนั้นไม่เปิดโอกาสให้นักฟุตบอลไทยเข้าไปได้ง่ายๆ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องอันดับของทีมชาติไทยเอง ในฟีฟ่า เบลเยียมจึงเป็นประเทศเดียวที่ดาวรุ่งจากประเทศไทย จะไปเล่นได้และโชว์ความสามารถให้คนในยุโรปได้เห็น
เด็กเยาวชนจากโครงการ Fox Hunt ที่ดีที่สุด จากระยะเวลา 2.5 ปีในเลสเตอร์อคาเดมี่ บนเกาะอังกฤษ จะถูกส่งมายังสโมสรในลีกเบลเยียมแห่งนี้ ในวัย 18 ปี และที่จำนวนที่เหลือจะถูกส่งกลับมายัง สโมสรในไทยลีก เพื่อช่วยเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะพัฒนาคุณภาพฟุตบอลลีกไทยต่อไป
"โครงการต่างๆที่เราทำมา ทั้ง Fox Hunt , Goal Football Talent ถ้าไม่มี สโมสร OHL ในเบลเยียม มันก็จะไม่ Complete ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเราจะใส่ Fox Hunt เข้าไปเรื่อยๆปีละคนสองคน เราทำเพื่อฟุตบอลไทย เด็กเหล่านี้จะไปได้ 3 ทาง กลับมาพัฒนาลีกไทยหรือลีกใหญ่ๆในเอเชีย พวกเจลีก เคลีก ไปเล่นในเบลเยียม หรือ ถ้าเขาทำได้ดีก็ไปลีกระดับท้อปของยุโรป เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศษ ต่อให้ไปไม่ถึงเขากลับมาไทยลีกเขาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยได้แน่นอน" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
"ทุกโครงการพัฒนาข้างต้น เราจะเห็นเยาวชนได้กว้างขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น และกว้างขึ้นกว่าในอดีต เราจะเห็นมากขึ้น" คุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ช้างเผือกย่อมอยู่ในป่า วลีนี้อยู่คู่กับวงการฟุตบอลไทยมานาน แต่น่าเสียดายเหลือเกิน ที่ช้างเผือกหลายเชือกไม่ถูกค้นพบ
สิ่งที่ King Power กำลังจะทำในอนาคตอันใกล้นี้ จะสร้างเด็กช้างเผือกที่ไร้โอกาสในป่าอันห่างไกลตามต่างจังหวัดให้เป็นนักฟุตบอลช้างเผือกอาชีพที่มีคุณภาพ ในอนาคตอันยาวไกล
เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะค้นพบช้างเผือก ทั้ง 11 เชือก ที่อดทนจนเก่งกล้ามากพอ ขัดเกลาด้วยระบบฟุตบอลที่แข็งแกร่งแบบไทย จนเป็นทัพช้างศึก นำทีมชาติไทยตะลุยฝ่าไป ยังศึกฟุตบอลโลก คงไม่ไกลเกินรอ
ขอขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ขอบคุณครับ